top of page

สำเนาของ อรุณสวัสดิ์ “เต้าเต๋อจิง”เผยแพร่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568

🌹หากมีแรงปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ชีวิตทั้งปวงก็ย่อมสำเร็จ

 จงปกป้องรักษาใจให้ดี โชคลาภย่อมมาเอง


อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ

ree

บทนี้มีคติเตือนใจ 3 ข้อ ข้อที่1 “สีทั้งห้าทำให้ตาพร่ามัว  เสียงทั้งห้าทำให้โสตประสาทเลอะเลือน รสทั้งห้าทำให้ลิ้นชาด้าน”  แก่นแท้ของประโยคนี้คือ หากจิตตั้งมั่นและควบคุมตนเองได้ จึงจะสามารถดึงพลังที่รั่วไหลกลับคืนมา


ตา หู ปาก เป็นทั้งประตูเชื่อมต่อกับโลกภายนอก และเป็นช่องทางที่พลังรั่วไหลออกไปหากใจไม่มั่นคงและไม่สามารถควบคุมตนได้ ก็จะทำให้ตาพร่ามัวไปกับแสงสี ทำให้หูสับสนไปกับเสียง และทำให้ลิ้นชาด้าน สุดท้ายจิตใจก็เสื่อมโทรมโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น บทที่ 22 จึงบอกเราว่า “รักษาความเป็นหนึ่ง จึงเป็นแบบอย่างของการบริหารปกครอง” 


1. ตาไม่แลไปสองทาง


อย่าไปเกาะเกี่ยวภายนอก อย่ามองแต่ความบกพร่องของคนอื่น แต่เลือกมองและทำตามแต่สิ่งดีๆ ให้ความสำคัญกับการมองที่ภายใน มองว่าตนสง่างามหรือไม่เพื่อระงับความไม่สำรวม มองว่าตนสงบนิ่งและผ่องใสหรือไม่เพื่อกลั่นกรองปัญญา มองว่าตนมีความเมตตาพอหรือไม่เพื่อเข้าใจและเอื้อเฟื้อผู้อื่น  เมื่อตาหันกลับมามองภายใน ก็ย่อมทำลายความยึดมั่นถือมั่นในตน เมื่อวันเวลาผ่านไป อดีตของตนจะกลายเป็นบทกวี


2. หูไม่เงี่ยฟังหลายเสียง


การสังเกตุและพรรณนาเรื่องทั่วโลก ยังไม่ประเสริฐเท่าการเรียนรู้ที่จะรับฟังให้เป็น บทที่ 2 กล่าวว่า “เสียงกับเสียงสะท้อนประสานกัน”  เบื้องหลังทุกถ้อยคำและการกระทำ ล้วนมีเสียงเล็กๆที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง มีแต่ใช้ใจไปสัมผัสเท่านั้นจึงจะรับรู้ได้ ดังนั้น หนังสือต้องเลือกอ่าน คนต้องเลือกคบ คำพูดต้องเลือกฟัง ฟังเสียงติฉินนินทาให้น้อย บ่มเพาะความสงบให้มาก จึงจะรับฟังคำตักเตือนได้อย่างราบรื่น มีข้อบกพร่องก็แก้ไข หากไม่มีข้อบกพร่องก็ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจ


3. ปากไม่พูดกลับกลอก


ทานอาหารจืดชืดเรียบง่าย รสแท้จึงปรากฏ ถ้อยคำสั้นกระชับ พลังจึงเกิด  ทุกคนต่างมี “เทพ” ซ่อนอยู่ภายใน รู้จักสงวนวาจาไม่พูดพร่ำเพรื่อ ก็จะได้ยินเสียงภายใน แต่หากพูดพร่ำไม่หยุด เทพในจิตก็จะเงียบหายไป  การพูดโดยไม่ยั้งคิด ทำให้ชีวิตสูญเสียมากมาย  การปิดปากในเวลาที่เหมาะสมนั้นมิใช่การเล่นเล่ห์ หากแต่คือการปกป้อง ความผิดของผู้อื่น หากนำไปเผยแพร่กลับกลายเป็นการทำร้ายเขา ความรู้ของตน หากนำไปโอ้อวดก็จะกลายเป็นความยึดติด  ทุกครั้งที่อยากเอ่ยปาก จงตระหนักรู้ถึงความคิดที่กำลังผุดขึ้น หากแฝงด้วยเจตนาที่ดี ย่อมมีค่ามากกว่าคำพูดนับพันนับหมื่น


บทที่ 22 กล่าวว่า “มักน้อยได้มาก โลภมากลาภหาย”  เรื่องทั้งหลายในโลก หากสมาธิจดจ่อในสิ่งใดความคิดก็จะแตกฉาน หากสมาธิฟุ้งซ่านไปทั่วความคิดย่อมแตกสลาย  หากปล่อยให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าไล่ตามสิ่งภายนอก สุดท้ายใจก็จะสับสนว้าวุ่นและลุ่มหลง  ดังนั้น ตาไม่แลไปสองทาง หูไม่เงี่ยฟังหลายเสียง ปากไม่พูดกลับกลอก การรักษาความเป็นหนึ่งและความสงบนิ่งจึงจะดึงพลังที่รั่วไหลกลับคืนมาได้  จงปกป้องรักษาใจให้ดี โชคลาภย่อมมาเอง


อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ อรุณสวัสดิ์เต้าเต๋อจิง 7 ตุลาคม 2568 🌹🌹🌹



ความคิดเห็น


Dao De Xin Xi logo
เกี่ยวกับเรา

มูลนิธิเหลาจื่อเต้าเต๋อสากล เป็นองค์กรการกุศล

ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2541

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

1. การสังคมสงเคราะห์

2. ส่งเสริมการบำบัดโรคต่างๆ โดยวิธีการฝึกสมาธิ

3. ร่วมกับหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชน

    พัฒนาคน ให้มีคุณธรรม มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น

4. ดำเนินการ เพื่อสาธารณะประโยชน์

     

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารทางอีเมล์

© 2019 by Dao De Xin Xi Thailand

bottom of page