สำเนาของ สำเนาของ อรุณสวัสดิ์ “เต้าเต๋อจิง”เผยแพร่วันที่ 9 มิถุนายน 2568

🌹ความยืนยาวเกิดจากการไร้อัตตา สุขภาพแข็งแรงเริ่มจากการ

ไร้ความเห็นแก่ตัว อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ

เราศึกษา "ฟ้าดินยืนยง" ไปเพื่ออะไร  ก็เพื่อการมีชีวิตยืนยาวนั่นเอง จุดประสงค์อันดับแรกของการเรียนรู้และประยุกต์ใช้ “เต้าเต๋อจิง” ก็เพื่อให้เข้าใจว่า ทำอย่างไรชีวิตจึงจะยืนยาว มีความผาสุข และรู้สึกถึงว่าตนเองมีคุณค่า

เพราะฉะนั้น “ฟ้าดินยืนยง” ประโยคนี้ล้วนล้ำค่า เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงาม ชี้ตรงไปยังความจริงของชีวิตว่า ความยืนยาวแท้จริงนั้นเกิดจากการไร้อัตตา และสุขภาพแข็งแรง แท้จริงเริ่มจากการไร้ความเห็นแก่ตัว

ที่นี่ได้เปิดเผย 3 สภาวธรรม  ซึ่งก็คือวิถีสู่ชีวิตที่ยืนยาว 3 ประการ ดังนี้

สภาวธรรม 1 “เต้าเต๋อจิง” บทที่ 2 กล่าวว่า  "เพราะไม่ถือความดีความชอบ ผลงานจึงไม่สูญหาย"

คำว่า “ไม่ถือความดีความชอบ” หมายถึง ไม่ยึดติด ไม่ครอบครอง ไม่หยุดนิ่งอยู่กับสิ่งใด  มนุษย์ไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นว่าตนจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน จงเกิดตามธรรมชาติ และตายตามธรรมชาติ ถ้าไม่ยึดติดกับความเป็นและความตายจนเกินไป กลับจะทำให้มีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น  การบำรุงชีวิตไม่เหมือนกับการบำรุงร่างกาย “ร่างกาย” เป็นเพียงฮาร์ดแวร์ ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต หากเรามัวแต่ดูแลเพียงร่างกาย ชีวิตก็จะถูกจองจำไว้ในกรงขังของกายเนื้อ  เราต้องตระหนักรู้ว่า “ร่างกายร่างนี้ไม่ใช่ของฉัน แต่เป็นของครอบครัว แผ่นดิน และสรรพชีวิตทั้งปวง ร่างกายของฉันเป็นเพียงพาหนะ เพื่อรับภาระแทนสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อมีความเข้าใจและรับผิดชอบเช่นนี้ นั่นแหละคือการบำรุงรักษาร่างกายที่ดีที่สุด

สภาวธรรม 2  “เต้าเต๋อจิง” บทที่ 59 กล่าวว่า "การปกครองประชาชน และปฏิบัติตามกฎเต้า ดีที่สุด คือการประหยัดเรียบง่าย "

มนุษย์เกิดจากฟ้าดิน มิใช่มีเพียงกายหยาบเท่านั้น ทุกคนล้วนมีส่วนหนึ่งของฟ้าอยู่ในตน หากมัวแต่จดจ่ออยู่แต่ร่างกายภายนอก ต่อให้บำรุงมากเพียงใดก็ไม่อาจมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ ร่างกายคือจุลจักรวาล  การดูแลร่างกายจึงเปรียบเสมือนการใช้ร่างนี้เป็นวิหารแห่งเต้า ฝึกฝนคุณสมบัติของการเคารพฟ้าและรักเพื่อนมนุษย์ จงปฏิบัติต่อร่างกายดุจดั่งรับใช้ฟ้าดิน ทำความเข้าใจและสอดคล้องกับกฎธรรมชาติของร่างกาย ทั้งต้องระงับความอยาก โดยใช้ความสงบนิ่งชำระกายใจให้ใสกระจ่าง และยังต้องรับใช้สังคม โดยใช้การเคลื่อนไหวไปสะสมพลังชีวิตให้มากขึ้น หัวใจสำคัญของทั้งสองวิธีนี้ก็คือ คำว่า "การประหยัดเรียบง่าย" หมายถึง การเก็บออมสิ่งที่ไม่ควรสิ้นเปลืองเอาไว้  เช่นนี้จึงจะสามารถบำรุงพลังและเก็บสะสมความพร้อม แล้วค่อยแสดงออกอย่างกล้าแกร่งในยามจำเป็น

สภาวธรรมที่ 3    บทที่ 3 ของ “เต้าเต๋อจิง” กล่าวว่า “ทำให้จิตผู้คนบริสุทธิ์ บำรุงเลี้ยงผู้คนให้อิ่มหนำ ตัดทอนความทะยานอยาก เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง”

คำว่า “ทำจิตบริสุทธิ์ และบำรุงเลี้ยง” หมายความว่า หากจิตเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรม และท้องอิ่มหนำสำราญ คนเราก็จะไม่เกิดความโลภ  ส่วน “ตัดทอนทะยานอยาก และเสริมสุขภาพ” นั้นหมายถึง หากใจไร้อัตตา ไม่มีการยึดมั่นถือมั่น กระดูกสันหลังก็ตั้งตระหง่านเหมือนดั่งฟ้า ดังนั้น ผู้คนก็เปี่ยมด้วยพลังแห่งความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ในด้านของร่างกาย เทพสถิตในจิต พลังชีวิตซ่อนเร้นอยู่ในไต   “ทำให้ผู้คนมีจิตบริสุทธิ์ไร้ความโลภตลอดกาล” คือการทำใจให้ใสสะอาดและมั่นคง นี่คือการบำรุงจิตเทพของตน   “บำรุงเลี้ยงให้อิ่มหนำ และสร้างสุขภาพ” คือการไม่โลภ ไม่ทำเรื่องชั่วร้าย  นี่คือการบำรุงไต  เมื่อจิตกับไตประสานกันดี จึงเปี่ยมด้วยกำลังวังชา  เมื่อมีชีวิตชีวา สุขภาพจึงมีหลักประกัน  ชีวิตจึงมีทิศทาง

ทุกคนต่างก็สามารถเข้าถึงความยั่งยืนของฟ้าดินได้  แต่การดูแลชีวิตอย่างแท้จริง ไม่ใช่แสวงหายาภายนอก แต่ต้องหันกลับมาฝึกจิตภายใน  เมื่อจิตเทพสงบมั่นคง อวัยวะทั้งห้าก็จะปรับสมดุลได้เองโดยธรรมชาติ  เมื่อคุณธรรมเปี่ยมล้น ภัยร้ายทั้งปวงย่อมไม่กล้ำกราย ทั้งหมดนี้มีรากอยู่ที่  “ไร้อัตตา ไร้ความเห็นแก่ตัว”  หากใจไร้ความเห็นแก่ตัว เต้าย่อมเข้าถึงได้แน่นอน  จากนั้น ร่างกายจะปรับสมดุลโดยธรรมชาติ ชีวิตจะสว่างไสวดั่งแสงอาทิตย์ โชคชะตาก็จะยกระดับขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง  นี่แหละคือพลังของผู้เดินในวิถีแห่งเต้า   เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า ความยั่งยืนเกิดจากการไร้อัตตา สุขภาพเริ่มต้นจากความไม่เห็นแก่ตัว

🌹อรุณสวัสดิ์ ผู้ทำคุณงามความดี ดูเหมือนเป็นคนโง่เขลาที่สิ้นเปลืองเวลาและกำลัง แท้จริงแล้ว กลับเป็นวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ที่ถูกปลูกฝังลึกลงไปข้างใน โชคลาภและสิริมงคลกำลังให้รางวัลอันงดงามแก่เราอย่างเงียบ ๆ

อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ วันที่ 23 เมษายน 2568 🌹🌹🌹